วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

'' วิกฤตวัยกลางคน '' มีบทความมาให้อ่าน เผื่อจะมีประโยชน์บ้าง


แปะไว้อ่าน เพื่อย้ำให้เข้าใจ.....เพื่อที่เราจะยอมรับว่าทุกอย่างมีเหตุและผลของมันเอง และอายุเราต้องก้าวไปถึงจุดนั้นอยู่ดี...
Cr.นพ.ธรรมนาถ เจริญบุญ/ http://pantip.com/topic/33948924

     เราก็เพิ่งจะได้ยินคำนี้เมื่อไม่กี่เดือนมานี้เอง และอายุย่างเข้า 38-39 ก็วัยกลางคนแล้วเหมือนกัน ผ่านอะไรมาไม่มากแต่ก็ไม่น้อย ไม่กี่ปีมานี้คนในครอบครัว พ่อ แม่ พี่ชาย ทยอยตายจากไป  งานที่คิดว่าเป็นคนไฟแรงทุ่มเทเมื่องานพลิกผันก็หมดใจ เกาะยึดครอบครัวที่ร่วมสร้างมาเป็นที่พึ่งทางใจ เมื่อไม่มีงานก็ยังเหลือครอบครัวแต่สุดท้ายเจอคนรักมีกิ๊กเจ็บปวดไม่น้อย ลูกไม่ใช่ข้ออ้างแต่มันคือความจริง
                 

     ถ้าหากเราเคยอ่านบทความหรือรู้จักคำนี้มาก่อน อาจไม่ต้องตัดสินผิดพลาดในบางสิ่งก็ได้ แต่ใครจะไปรู้อนาคต อยู่อย่างมีสติใช้ใจรักษาใจจะดีกว่าไหม ท่านใดเคยอ่านบทความกล้ายๆกันนี้ก็ต้องขอโทษด้วย เผื่อเป็นประโยชน์กับท่านที่ยังไม่เคยอ่าน

ลิ้งค์ที่มาจาก นพ.ธรรมนาถ เจริญบุญ
http://health.haijai.com/3175/

วิกฤตวัยกลางคนหรือที่ภาษาอังกฤษใช้ว่า “midlife crisis” คืออะไร? หากจะพูดแบบขำๆ หลายคนมักนึกถึงการที่ผู้ใหญ่วัยกลางคนเกิดลุกมาทำอะไรบ้าๆ แบบไม่คาดฝัน เช่น หย่ากับภรรยา มีเมียน้อย ลาออกจากงาน ประจำไปเปิดร้านกาแฟ หรือเอาเงินเก็บทั้งหมดไปซื้อรถสปอร์ตสีแดง เป็นต้น

วิกฤตวัยกลางคนคืออะไร

วิกฤตวัยกลางคน คือ การที่ผู้ใหญ่ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 35-50 ปี เกิดคิดทบทวนหรือประเมินชีวิตตัวเองอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นด้านการงาน ชีวิตคู่ ความสุขในชีวิต หรือเรื่องอื่นๆ ซึ่งการคิดทบทวนนี้มักถูกกระตุ้นมาจากการตระหนักว่า ชีวิตนี้เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว และเราควรจะประสบความสำเร็จ (หรือมีความสุข) ได้แล้ว

สิ่งที่ต้องเข้าใจ คือ วิกฤตวัยกลางคนนั้นไม่ใช่โรค และไม่ใช่ความผิดปกติทางการแพทย์ แต่เป็นปรากฏการณ์ปกติทางจิตวิทยาที่พบได้ในคนวัยนี้ โดยนักวิชาการส่วนหนึ่งก็ใช้คำว่า “ช่วงเปลี่ยนผ่านของวัยกลางคน” (midlife transition)O แทนคำว่า “วิกฤตวัยกลางคน” เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ได้มีอาการระดับที่ควรจะเรียกว่า “วิกฤต” แต่อย่างใด มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ที่อาจทำอะไรหุนหันพลันแล่นจนสร้างปัญหาให้กับชีวิตหรือเกิดโรคซึมเศร้า

เพราะอะไรชีวิตถึงมาวิกฤตกันช่วงอายุนี้
ที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากพบว่าในช่วงอายุ 35-50 ปีนี้ เป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเข้ามาในชีวิต ได้แก่ 
• การเสื่อมของร่างกาย ในวัยนี้ร่างกายจะเริ่มเสื่อมลงไม่แข็งแรงเท่ากับตอนวัยรุ่น และเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง หลายคนรู้สึกได้เลยว่า ตัวเองไม่ฟิตเท่าเดิม เริ่มอ้วน หัวเริ่มล้าน เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นช่วงอายุที่เริ่มมีโรคประจำตัวมากขึ้น


• ฮอร์โมนเปลี่ยน โดยในผู้หญิงจะเห็นได้ชัดเจนกว่าผู้ชาย ผู้หญิงหลายคนในวันนี้ จะเริ่มเข้าสู่ช่วงหมดประจำเดือน ทำให้มีอาการของคนที่กำลังจะเข้าวัยทอง (perimenopausal syndrome)


• ต้องการความสำเร็จ ในวัยผู้ใหญ่สิ่งสำคัญในชีวิต นอกจากชีวิตครอบครัว ก็คือเรื่องของการทำงาน ซึ่งในคนส่วนใหญ่ตอนอายุยี่สิบต้นๆ จะเป็นช่วงที่พึ่งเริ่มทำงาน ยังเรียนรู้ลองผิดลองถูก มักไม่ได้จริงจังมากในเรื่องความสำเร็จก้าวหน้า แต่ในวัยที่เกิน 35 ปี ซึ่งทำงานมาแล้วเป็นสิบปี คนส่วนใหญ่จึงต้องการที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้


• ตระหนักได้ว่าเวลาของเราเหลืออีกไม่มาก ช่วงนี้หลายคนจะเริ่มรู้สึกว่า “เฮ้ย เราเหลือเวลาอีกไม่มากแล้วนะ” “อีกสิบกว่าปีก็เกษียณแล้ว” (หรือ “อีกสิบกว่าปี ก็อาจจะตายแล้ว”) เราควรจะต้อง “ทำอะไร” แล้ว


• การสูญเสียของคนใกล้ชิด ช่วงอายุนี้มักพบเหตุการณ์ที่คนใกล้ชิดเสียชีวิตได้บ่อย ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย หรือเพื่อนฝูง 

สังเกตอย่างไรว่าเรากำลังอยู่ในช่วงวิกฤตวัยกลางคน (ไม่ใช่ดูแค่ตัวเลขอายุนะค่ะ)


อาการเด่นก็คือ ความคิดที่สับสนกับชีวิต รู้สึกไม่พอใจในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ชีวิตคู่ ที่อยู่อาศัย หรือสุขภาพ และตามมาด้วยความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงในด้านของอารมณ์ที่พบได้บ่อย ก็จะเป็นอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย หรือซึมเศร้า โดยในคนที่เป็นมากมักจะแสดงออกให้เห็นชัด ผ่านการกระทำที่รุนแรง และกะทันหัน เช่น มีความคิดว่างานที่ทำอยู่ช่างไม่มีความสุขเอาซะเลย! ว่าแล้วก็ลาออกจากงานประจำมาเปิดร้านกาแฟ คิดว่าคู่ชีวิตของเราตอนนี้ “มันไม่ใช่อ่ะ!!” แล้วก็ขอหย่ากับภรรยา หรือคิดว่าบ้านที่อยู่ตอนนี้ “มันไม่เวิร์คเอาซะเลย!!” แล้วก็ทุ่มเงินซื้อบ้านใหม่ เป็นต้น

รังที่ว่างเปล่า (Empty-nest syndrome)

มีอีกคำที่มักถูกพูดถึงในช่วงวิกฤตวัยกลางคนก็คือ “Empty-nest syndrome” หรือที่ผมขอแปลเองว่า “รังที่ว่างเปล่า” (หรือ “รังไร้นก”) ซึ่งเป็นอีกปรากฏการณ์หนึ่ง ที่พบได้ในช่วงอายุนี้ ภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อลูกๆ ต้องออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่น ไม่ว่าจะไปเรียน แต่งงาน หรือทำงานที่อื่น ทำให้พ่อหรือแม่เกิดความรู้สึกเหงา หรือเศร้า ซึ่งภาวะนี้มักเป็นมากในผู้ที่มีหน้าที่หลักคือการดูแลลูก ผูกพันติดกับลูกมาก หรือในคู่ที่ยังยอมคงชีวิตคู่ไว้ เพราะ “อยู่เพื่อลูก” (หมายถึงการที่สามีภรรยาที่ทะเลาะกันและใจจริงอยากที่จะหย่า แต่ทนอยู่ด้วยกันเพื่อลูก) การที่ลูกออกจากบ้านไป จะทำให้เกิดความเหงา เศร้า ไม่รู้จะทำอะไร รู้สึกตัวเองไม่มีค่า ทำให้คนที่ปรับตัวไม่ได้ อาจเกิดโรคซึมเศร้าตามมาได้

แนวทางการจัดการกับวิกฤตวัยกลางคน

เมื่อเราเข้าใจแล้วว่า วิกฤตวัยกลางคนคืออะไรแล้ว คราวนี้มาดูกันครับว่า เราจะมีแนวทางป้องกันแก้ไขอย่างไร ไม่ให้มันกลายเป็น “วิกฤตในชีวิต” ไปจริงๆ
• เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งสำคัญแรกสุดคือ เราต้องเข้าใจภาวะนี้ก่อนว่าคืออะไร เมื่อรู้จักก็จะช่วยให้เรารู้ตัวและนำไปสู่การจัดการแก้ไขได้อย่างเหมาะสมต่อไป


• ปรึกษาผู้อื่นเสมอในเรื่องที่สำคัญ ที่จริงการคิดทบทวนประเมินชีวิตของตัวเอง และอยากที่จะเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องผิดอะไร บางครั้งอาจเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ แต่ที่มักทำให้เกิดปัญหาคือการตัดสินใจอย่างหุนหัน ในเรื่องที่สำคัญจนเกิดความเสียหายตามมา ดังนั้น ทุกการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของชีวิต เช่น หย่า ลาออก ใช้เงินจำนวนมาก ควรต้องให้เวลาในการคิดไตร่ตรองอย่างรอบครอบ และปรึกษาผู้อื่นเสมอ การได้พูดคุยกับคนอื่น (ที่สามารถให้คำปรึกษาได้) จะช่วยให้เรามองเห็นว่า สิ่งที่เราจะทำมันสมเหตุสมผลแค่ไหน เพื่อที่จะลดโอกาสที่จะตัดสินใจผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุด


• ออกกำลังกายเป็นประจำ การออกกำลังกายจะช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล ทำให้สุขภาพแข็งแรง และป้องกันการเป็นโรคซึมเศร้าได้ ยิ่งวัยนี้เป็นวัยที่ ตามธรรมชาติสุขภาพจะเริ่มเสื่อมลง และเกิดโรคต่างๆ ได้ง่าย การออกกำลังกายจึงเป็นเรื่องสำคัญและมีประโยชน์อย่างมาก


• หากิจกรรมทำทดแทน เป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะในกรณี “รังที่ว่างเปล่า” เพราะนั่นคือการที่เราเปลี่ยนสถานะจากผู้ที่ทำงาน “ดูแลลูก” กลายเป็นผู้ “ว่างงาน” ลูกไม่อยู่ให้ดูแลแล้ว ดังนั้น จึงต้องหากิจกรรมอื่นทำทดแทนงานเดิม เพื่อไม่ให้เบื่อและเศร้า โดยกิจกรรมนั้นอาจจะเป็นการออกกำลังกาย การไปเที่ยวกับเพื่อนฝูง การเข้าร่วมชมรมต่างๆ หรือทำงานการกุศล เป็นต้น

วิกฤตวัยกลางคน หรือการเปลี่ยนผ่านช่วงวัยกลางคน เป็นภาวะปกติที่พบได้ในคนวัยผู้ใหญ่ทั่วไป การเข้าใจถึงสภาวะนี้และวิธีปฏิบัติตัวจะช่วยให้ “วิกฤตวัยกลางคน” ไม่กลายเป็น “วิกฤต” จริงๆ และทำให้ชีวิตครอบครัวมีความสุขสืบเนื่องต่อไป ^^



รู้ไหม? ไม่มีชาติไหนที่ให้ความสำคัญกับข้าวกล่อง (Bento) เท่าญี่ปุ่นเล๊ยยยย


ข้าวกล่องญี่ปุ่น (Bento) จริงๆ มีที่มานา ^^



Kyaraben หรือ Charaben (ภาษาญี่ปุ่น: キャラ弁) หรือเรียกยาว ๆ ว่า Character Bento (ภาษาญี่ปุ่น: キャラクター弁当) เป็นเบนโตะสไตล์ต่าง ๆ ซึ่งจะตกแต่งเป็นบุคคล ตัวการ์ตูน สัตว์ หรือดอกไม้ ที่ชื่นชาว ซึ่งชาวญี่ปุ่นนิยมที่จะทำเบนโตะเป็นมื้ออาหารกลางวันให้กับครอบครัว
ซึ่งก่อนหน้าที่จะเป็นที่นิยมขนาดนี้ เบนโตะในลักษณะนี้จะทำเพื่อดึงดูดเด็ก ๆ และฝึกลักษณะนิสัยการกินที่ดีให้กับเด็ก ๆ แต่ในปัจจุบันนั้นเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากทั้งในประเทศญี่ปุ่น และผู้คนทั่วโลก

วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ไขเกม Virtual Villagers4



Virtual Villagers 4 - The Tree of Life

## ภาค 4 - ต้นไม้แห่งชีวิต ##

ดำเนินเรื่องราวของเกาะลึกลับ ISOLA และชนเผาของผู้ลี้ภัยที่สูญเสียไป ในภาคนี้ - ต้นไม้แห่งชีวิต หัวหน้าเกาะเป็นห่วงว่า ประชากรบนเกาะค่อยๆลดลง จึงได้เลือกชนเผ่านักสำรวจ เพื่อหาแหล่งที่มาของปัญหา Isola พวกเขาออกสำรวจชายฝั่งตะวันออกของเกาะ ได้ค้นพบความลึกลับซ่อนเร้น พร้อมกลับการคลี่คลายปมเรื่องราวของ Isola และบันทึกต้นไม้แห่งชีวิต 


เริ่มเล่นด้วยการเลือกตัวละคร5 ตัว ผู้ใหญ่ สี่ เด็กหนึ่ง
ซึ่งหากตัวละครมีทักษะใดมากก็จะทำงานนั้นได้ง่ายและเร็วกว่า ตัวละครที่อายุมากจะเป็นงานเร็วกว่าเด็ก ส่วนผู้หญิงอุ้มเด็กจะช่วยเพิ่มประชากรแต่ไม่ทำงานเลยเด็กอายุ 2-13 จะทำงานไม่ได้ แต่จะช่วยเก็บชิ้นส่วนแปลกเพื่อเพิ่มคะแนนเทคพอยท์ ช่วยเก็บเห็ดเพิ่มอาหาร เก็บ Item เด็กอายุ14  ขึ้นไปจะเริ่มทำงาน (เก็บของไม่ได้นะค่ะ) และยังมีลูกไม่ได้จนกว่าจะอายุ 18 ปี และผู้หญิง 50 ขึ้นไปจะติดลูกยาก
 Trip:เริ่มต้นเกมมาอาจจะไม่เลือกผู้หญิงมีลูกเพื่อให้ทำงานเร็วๆ แต่สำหรับเรา จะเลือกผู้ใหญ่สามที่พอมีทักษะ ก่อสร้าง หรือรีเสิร์ชติดไว้บ้างแต่ต้องอายุไม่มากไม่งั้นจะแก่เร็ว เลือกเด็กอายุ12 ไว้เก็บของ เลือกผู้หญิงอุ้มลูกที่ยังสาวไว้หนึ่งคน เมื่อทารกเดินได้ เราก็จะมีเด็กไว้ใช้เก็บของส่วนเด็กที่เราเลือกทีแรกจะอายุ14 ทำงานได้พอดี เราจะได้มีประชากรไว้ใช้การเยอะขึ้น

****เกมนี้จะทำข้ามปริศนาได้นะค่ะ ในช่วงปริศนาต้นๆ ค่ะ****

ที่มา:http://www.virtualvillagers.com/virtual_villagers_4_the_tree_of_life.php

http://www.bigfishgames.com/blog/walkthrough/virtual-villagers-the-tree-of-life-walkthrough/

ภาค 4: ต้นไม้แห่งชีวิต มี 16 ปมปริศนา ^^




*** ตั้งแต่ puzzle 3 เป็นต้นไป จำกัดที่ 5 คน ถ้ามีคนตายให้รีบเพิ่มจำนวนประชากรด้วยนะ หรือเพิ่มก่อนหน้านั้นก็ได้ เพราะมีpuzzle ท้ายๆ ต้องใช้ vv 20 คน adult ***

ศัพท์ในการเล่น:
vv = คน, ตัวละครผู้ใหญ่
หยิบ,ลาก = กดที่ตัวละครค้างแล้ว ลากไปที่เป้าหมาย
*** ถ้ากดที่ตัวละครขณะทำอะไรอยู่ = การยกเลิกกิจกรรมนั้นๆ ***

puzzle 1  - the cutting tools :

 



: จุดไฟ (เอาฟืน ฟาง มาสุมที่กองไฟ เอา vv วางเพื่อจุดไฟ) แล้ว  แล้วถ้าใช้งานไป ไม่ทำเพิ่มมันจะหมด ต้องทำเพิ่มเรื่อยๆค่ะ

: Cutting Tool เอา VVวางที่กระดูกปลาบนหาด เค้าจะเอากระดูกปลามาเผาไฟ แล้วเอาเก็บที่ห้องวิจัย ทำทีละ 3  เต็มพิกัดที่ 6 อัน ...เอา VV วางที่เครื่องตัด vv จะไปตัวแบล็คเบอร์รี่ทำให้เก็บอาหารได้มากขึ้น (มันจะหมด ต้องทำเรื่อยๆ)

@ Pile of Wood = ฟืน
@ Dry Grass = ฟาง

puzzle 2 - The Stream น้ำลำธาร 

: เอาซากออกก่อนจะมี% บอก vv ชอบอู้ต้องลากมารุมตรงนี้เลย พอเอาออกหมดน้ำจะเปลี่ยนทิศทางค่ะ



ให้ builder clear  debris ที่ขวางทางออกก่อน (ลำธารทางขวามือบน) พอเอาออกได้แล้ว  ให้มองหา keystone  ที่อยู่ใต้น้ำตก (ก้อนกินคล้ายๆ v shape) ทางขวามือ  ถ้ามีน้ำตก ตกลงมาจะหยิบไม่ได้ ต้อง ให้ VV clear สิ่งกีดขวางอีกที ให้น้ำเปลี่ยนทาง จนมองเห็น key stone เราต้องได้ adapt scientist  ที่มี skill adapt builder (ในคนๆเดียวกัน) เอาkeystoneด้วยกัน  หรือ master scientist ไปหยิบมาค่ะ แล้วVVจะเดินไปติดตั้งที่บริเวณรูน้ำซ้ายมือต้นไม้

Puzzle 3 : Boiling water ทำที่ห้องวิจัย 



-เติมน้ำเค็ม salt water  หรือ fresh water- จืดก็ได้ แลวเอาหินที่โคนสะพานไปเผาไฟให้แดง (รอให้ก้อนหินเป็นสีแดง) จากนั้น หยิบ vv ที่กองไฟ เอาหินไปไว้ที่ใต้หม้อต้มน้ำ 

@ น้ำเค็ม = กองหินสีส้ม ใกล้ทะเล ด้านล่าง
@ น้ำจืด = กองหินสีส้ม ข้างบน ใกล้สะพาน
@ หิน = กองหินดำโคนสะพานที่จะข้ามไปห้องวิจัย 

puzzle 4 = Soap invented: ผลิตสบู่ 



ให้ต้มน้ำก่อน   แล้วเริ่มตำราทำสบู่ดังนี้ค่ะ salt water +  3 soap herbs  = cook  พอเสร็จแล้ว เอา vv วางที่หม้อ แล้ว  vv จะเริ่มทำ  การ stack the soap  เราจะเจอสบู่ก้อนๆ ใหญ่ๆ อยู่ในห้องวิจัยด้านบนขวามือ

@ ดอกไม้สีขาว = Soap 
@ อาบน้ำ vv โดยเอา vv ไปคลิกที่ก้อนสบู่ส้มๆ แล้ว vv จะเอาไปโยนลงบ่อน้ำ และเกิดฟอง ทีนี้ก็โยน vv ลงอาบน้ำวิ๊งๆ (vv เด็ก อาบไม่ได้นะค่ะ)

puzzle 5 = ผีเสื้อ

::ในรูปต้นไม้ที่เคยแห้งเหี่ยวจะมีชีวิตขึ้นมา มีต้นเดียวค่ะอยู่ฝั่งเดียวกับ Blackberry 

::ลากมาวางที่ต้นไม้เลยค่ะ vv จะขอเวลาติดเมือกเหนียวที่ต้นไม้แพล๊บ

พอแก้ปม streams มาแล้ว อีกไม่นานที่ซ้ายมือที่ stalks(แถวดงเบอรี่ ) จะเขียวชอุ่ม   ตอนนี้เราต้องใช้ cutting tools โดย วาง adult vv ที่ดงไม้เขียวๆนั้น   แล้ว vv จะรับเควสเดินไปหยิบ cutting tools มาเอง แล้วเริ่มตัด stalks ที่นี้ vv จะรู้สึกเหนียวๆ มือและเนื้อตัวจากการ cutting stalks (บนหัวจะมีเขียวๆวนๆ เหมือนติดพิษ) ทีนี้ผีเสื้อจะมาบินวนรอบตัวเรา ช่วงที่ผีเสื้อมาวนๆ รอบ VVคนนี้ ทีนี้ให้เราค่อยๆ ลาก VV คนนี้ ไปที่ Tree of life "ให้ไปช้าๆ เพราะถ้าเราลากไปเร็ว ผีเสื้อจะบินหนี ต้องเริ่ม cutting stalks ใหม่)  แล้วผีเสื้อพวกนี้ จะทำให้ Tree of life เริ่มมีชีวิตชีวา

puzzle 6 The Frog rescue

:: ทำปริศนานี้เฉพาะเวลาฝนตกเท่านั้นนะค่ะ ถ้าปกติน้ำจะแห้ง กบไม่มาจร๊า

พอได้stream แล้วน้ำมันไหลไปทั่วเกาะ ทีนี้พอฝนตกให้ วาง vv ที่แอ่งน้ำ(น้ำจะมีตอนฝนตก)ตรงขวามือของบันได (ก่อนถึง salf water) ที่มีโขดหิน มันจะมีกบกระโดดขึ้นลง  เพราะมันถูกขังไว้ในแอ่ง ทีนี้ให้เรา วาง vv ไปจับเรื่อยๆ vvจะเอาไปวางรอบๆ ธารน้ำแถว Tree of life เองค่ะ กี่ตัว? เด๊วเกมจะร้องว่า Complete เองเจ้า  

puzzle 7 : The cooking Pit:


อันนี้ ต้องได้ tech contruction level 2  แล้วเอา vv builder ไปวางที่ กองหินหน้าต้นไม้  จากนั้น ให้เอาหินที่อยู่ทางขึ้นบันไดก่อนไปห้องวิจัย  ไปเผาไฟแดง ให้ทำ 4 ก้อน แล้ว ใช้ vv 2-4 คนทำ เควสนี้ โดยกะระยะ ให้หินก้อนแรก แดงก่อน หยิบออกมาแล้ว เอาหินก้อนต่อไปใส่ลงไป แล้วหยิบออกมา วางๆๆ จนครบ 4 ก้อน  ทีนี้ ไปหยิบใบไม้ คล้ายใบตองป่า(คล้ายต้นกล้วย)ที่อยู่แถว ดงเบอรี่ เอามาปิด ตะแกรงไฟอันนี้ แล้ว วาง VV farmer  ที่ต้นไม้ที่มีผลไม้สูงๆ เค้าจะเขย่าแล้วหยิบผลไม้ มาย่าง จากนั้นเอาไปเก็บในคลังอาหาร ***เพิ่มปริมาณอาหารเยอะเลยงั้บ***

puzzle 8 : Cloth invented


:: ลาก VV มาตรงเถาวัลย์ (Pulpy Vines)


:: หลังต้มเสร็จแล้ว VV จะเอา ก้อนส้ม มาวางที่ก้อนหินนี้ เอา VV มารุมได้ค่ะมี 100%

ให้อัพเกรด  Science level 3 ก่อน แล้ว (สิ่งก่อสร้างจะโผล่มาเอง) ให้สร้าง clothing hut ก่อน มันจะกองแหมะ อยู่หน้าจอทีมีผ้าหลากสีน่ะค่ะ ทีนี้ เราก็จะมีเควส ในการตัด pulpy -vains ที่เป็นคล้ายเถาวัลย์เกาะผนังหินอยู่ (ตรงระหว่างกองฟืนและหญ้าแห้ง) ทีนี้เราต้องตัดมันมา 

ขั้นตอนคือ ต้มน้ำ ในห้องวิจัย(salt water+ vains 3 อัน (เอาvv ไปวางที่ vainที่กำแพง เค้าจะใช้ cutitng tools ตัด vainsไปวางที่โต๊ะห้องวิจัย) แล้ว วาง vv ให้ cooking จากนั้น เอา vv ไปวางอีกที เค้าจะตักมันออกมาจากหม้อแล้วเอาวางตามรูป( pulpy mass) เพื่อเริ่มทำการทุบๆ ตีๆ จนมันเหนียว แข็งแรง นิ่ม  (ดูprocessได้ เหมือนเอาเศษไม้ที่ขวางทางน้ำออก) จากนั้น vv จะเอา cloth ที่ได้ ไปวางที่ clothing hut เพื่อทำ puzzle ตัวต่อไป คือ ทำอวนจับปลา  

***ปล. ผ้าเนี่ย ต้องทำเผื่อด้วยนะคะ เพราะมันเหมือน cutting tools  คือใช้แล้ว หมดไป ดูที่ซุ้มเสื้อผ้า จะมีแผ่นคล้ายผ้าม่านน้ำตาล วางพิงอยู่ค่ะ***

*** ถ้าเอา VV ไปที่ซุ้มเสื้อเลย เกมจะถามว่า แลกเปลี่ยนแบบเสื้อใหม่กับ 5,000 Tech ไหมนะค่ะ อันนี้ไม่จำเป็นค่ะ หรือจะลองก็ได้ค่ะ แต่เสียดายคะแนนอ่ะ กว่าเก็บนานเลย ***

Puzzle 9 : The Nursery school


VV ต้องได้ technology level 3  จากนั้น เราจะได้ site มาสร้าง อนุบาลเลี้ยงเด็ก ส่วนเควสที่จะเป็นครูได้  ให้ระดับ Adeptขึ้นไปเท่านั้น และต้องมีทักษะ  ด้านต่างๆ อย่างน้อยสามทักษะขึ้นไป  ถึงจะสอนเด็กได้ 
*** เอา VV ผู้ใหญ่มาวางที่นี่ก่อน แล้วเด็กจะวิ่งมาเอง เหมือนตอน ที่เอา VV ไปวางบน เด็ก เพื่อ Talk Story ***

Puzzle 10 =The Mossy Rocks

::ยากอ่ะ.....ใช้เด็ก 2 คน เอาไว้ไล่ปู ปูจะโผล่แว๊บๆ + VV อีก 1 คน

:: เดิมที่เป็น วงหญ้ามอสส

ก่อนถึงด่านนี้ ให้มั่นใจว่า เรามีเด็กเล็กไว้ใช้แรงงานซักสองคนนะคะ เพราะจะเอาไปไล่จับปู 

หลังจาก ได้ stream แล้ว เราจะเห็นหินแปลกๆลอยขึ้นมา  ที่แอ่งน้ำ ด้านล่างของ pound แต่มันมีตะไคร่น้ำ moss ปกคลุม และการที่จะเอา moss ิกได้ ต้องทำอย่างทะนุถนอมสุดๆ โดยการ จับปู ชนิดหนึ่งมา ให้มันกินตะไคร่น้ำนี้  แต่การที่เราจะเจอกับเจ้าปูและจับมันมาได้นั้น เราต้อง ซ่อมแพและอวนจับปลาก่อน (เป็นpuzzleที่12) 

ปูชนิดนี้  มันไม่ได้ออกมาลอยหน้าตาไปทั่วนะคะ  แต่มันจะเสนอหน้ามาให้เราเห็นแถวทางหาดทรายทิศเหนือของเกาะเท่านั้น และมันจะออกมาหลังจากที่ปลามันมาติดที่ตาข่ายจับปลาเท่านั้น  ที่สำคัญมันไวเอามากๆ เราต้องเล็งและไล่มันให้ทัน   เทคนิค คือ ต้องใช้เด็กเล็ก สองคน ลากไปที่ปู ( หรือเจอปูปั๊บ กด space bar ให้เกมส์หยุด)แล้ว ลาก VV เด็ก ไปไว้บนปู   หรือ ถ้าไวพอก็เอา vv เด็กสองคน ลากไว้บนปู แล้ว รีบลาก vv adult ไปจับปู  พื่อจับมันค่ะ ขั้นตอนนี้ ต้องทำประมาณ 5 ครั้ง  เพราะ หินมี 5 ก้อน  ต้องใช้ปู 5 ตัว  ( ท่าทางเหนื่อยนะ)


Puzzle 11 -The Grand Feast

:: ต้องผ่านปริศนา 7 Cooking pit,12 Fixing Net ก่อนนะค่ะ 

  


ร่วมรับประทานอาหารพร้อมกันทั้งหมู่บ้าน  เพื่อความสามัคคี มาช่วยให้พวกเค้าทานข้าว หม้อเดียวกันค่ะ วิธีคือ 

ต้ม fresh water + 1 sweet herb+1 soap herb+1 spicy herb + add  some food จาก food bin + mushroom (เด็กเก็บเห็ด)+ ฺBlack berries + Fruit Tree (ผลไม้เหลืองๆ) + ปลาเผา  จัดการ cook แล้วคนจะมาทานด้วยกัน

Puzzle 12-Fixing Nets


ก่อนจะเริ่มทำpuzzle นี้ต้องลาก VV มาซ่อม Piers นี้ก่อน แล้วใช้ผ้าจากpuzzle ที่ผ่านมา มาทำ  อวนจับปลา วิธีการคือ ลาก VV ไปที่ Piers แล้วเค้าจะพยายาม Fixing nets   ส่วนจำนวนผ้าที่ใช้ คือ เราต้องให้ VV ทำผ้าสองรอบ (หรือได้ผ้าประมาณ 4-6 ม้วน การต้มผ้าหนึ่งครั้งและเอามาทำผ้าจะได้ผ้าประมาณ 2-3 ม้วน)  ใช้ VV ประมาณ 4-6 คน   จากนั้น VV เราก็ได้ปลามาหม่ำ เป็นการควบคุม นน. ไปในตัว Diet กันค่ะ 

Puzzle 13-Pruning the tree


เราต้องทำอุปกรณ์พวกนี้เพิ่ม(ถ้ามันหมด)ดังนี้   soap(สบู่),  cloth(ผ้าใบ),  cutting tools และต้องupgrade tech Dendrology level 2 แล้ว วางVV ที่ Tree of life เค้าจะเอาผ้าพันบางส่วนของต้นไม้ก่อน แล้ววาง vv อีกคนที่ cutting tools ที่เก็บไว้ที่ห้องวิจัย เค้าจะเดินไปเอาเครื่องมือ และวาง vv อีกคนที่สบู่ก้อน  แล้วพวกเค้าจะไปที่ Tree of life ทำการตกแต่ง รักษาต้นไม้แห่งชีวิต แล้วจะมีกิ่งอ่อนยื่นออกมา

Puzzle 14 Honoring the Tree

***** ปริศนานี้ใช้ VV 20 คนค่ะ*****

ทำอาหารบูชาต้นไม้
ต้ม สูตรอาหารคือ 3  sweet herbs+ boiled fresh water 
ทำแล้วมันยังไม่เสร็จ(Unfinish) ต้องลาก vv หยิบอาหารจากคลังอาหาร vv จะเดินไปใส่ที่ Pot หม้อดำค่ะ จากนั้น หยิบvvวางที่หม้อ จะชิมแล้วยกเดินไปที่ต้นไม้เองค่ะ 

ด่านนี้เราต้องให้ไว ในการลาก vv ไปที่ stew หรือ ถ้า stew หมด เราต้องรีบทำ (เก็บ 3 sweet herbs มาวางที่โต๊ะก่อน แล้วบ่มหินร้อนรอ)  vv แต่ละคนที่ถืออาหารไปที่ต้นไม้ แป๊บเดียวเค้าจะเจ็บหัวเข่า ให้รีบลาก vv คนต่อไปตามมาติดๆ  ไม่งั้น ถ้าเค้าหยุด แล้วไม่มีคนต่อไป เราต้องเริ่มใหม่หมด


Puzzle 15: Purifying The Tree




ต้องอัพเกรด tech Dendrology level 3 ให้เอาVV หยิบสบู่ไปอาบน้ำจนมีประกายแล้ว ลาก VV ไปทำสมาธิที่หน้าผา ขวามือบน อย่าให้เด็กๆ มาวิ่งรบกวน  พอมีสายรุ้งขึ้นบนหัว VV เค้าจะเดินออกมา ให้เราลาก vv คนนี้เข้าไปในโพรงต้นไม้ VVจะหยิบแมลงสีดำๆออกมา

Puzzle 16: Decorate the Tree


ด่านนี้ ต้องใช้ cloth ด้วย ให้ทำ cloth มาไว้ก่อนซัก 1-2 ม้วนจ้ะ 
ก่อนที่จะตกแต่งต้นไม้ 

เราต้องทำให้ต้นไม้ Healthy ก่อน โดย checkจาก เมนูเทคโนโลยีของเกมส์ ตรง Dendrology ว่าต้นไม้ healty มากกว่า 3 ระดับมั๊ย  แล้วถ้าต้นไม้ happy แล้ว เราจะเห็นนกฮัมมิ่งเบิร์ด บินไปมาแถว ดอกไม้ ที่จะใช้ร้อยมาลัย(ที่ปกติมันจะไม่บาน)  ทีนี้เราต้องเอาดอกไม้ต่างๆ มาร้อยเป็นพวงมาลัยยาว แต่ให้เราเอา vvไปวางที่กล่องที่อยู่ซ้ายมือของโต๊ะวิจัยก่อน แล้ว  vvจะไปเอาผ้ามาจัดการ clear  braids ในกล่องนี้ จากนั้นเริ่มยุทธการณ์ ร้อยมาลัย ตามนี้ค่ะ 

-ดอกไม้ที่จะใช้ได้ ต้องเป็นดอกที่นกฮัมมิ่งเกาะอยู่ แต่มันจะเกาะให้ดอกไม้นั้นๆ บานได้ไม่นาน ให้เรารีบไปเอาดอกไม้นั้นมา ก่อนที่นกจะหายไปและดอกไม้มันจะหุบ  ดอกไม้ที่ใช้ จะมีทั้งหมด 6 ดอกที่นกเกาะอยู่ ต่อมาลัยหนึ่งพวง จำนวนมาลัยที่ใช้คือ 3 พวงจ้า......


The End